The สงครามในพม่า Diaries
The สงครามในพม่า Diaries
Blog Article
ดร.ศรีประภา กล่าวด้วยว่า ควรทบทวนนโยบายรัฐไทย เพราะเราไม่มีความชัดเจนเลย ประเทศอื่นในอาเซียนเขาชัดเจนกว่า บางประเทศเขาไม่ยอมที่รัฐบาลเข่นฆ่าประชาชน หรือบางประเทศประกาศตนชัดว่าเห็นใจพม่า ถึงเวลาแล้วที่เรามีรัฐบาลใหม่ มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่ จึงควรทบทวนนโยบายด้านพม่า
การตายจากมะเร็งปอดที่ “ไม่ยุติธรรม” ของคณบดี ม.เชียงใหม่ ผ่านการต่อสู้ของครอบครัว
..และตอกย้ำถึงความเพลี่ยงพล้ำของฝ่ายกองทัพพม่าของมิน อ่องหล่ายอย่างชัดขึ้นทุกวัน
"เราอยู่บ้านตัวเองไม่ได้ เพราะเผด็จการทหารทิ้งระเบิดใส่หมู่บ้านเรา"
การสู้รบในเมียนมาที่นับวันก็จะรุนแรงขึ้นจะนำมาสู่วิกฤตผู้ลี้ภัยครั้งใหญ่ ซึ่งจะพิสูจน์ความสามารถด้านการจัดการ กับภาวะวิกฤตของภาครัฐไทย
ฝั่งไทยผวา กระสุนอาวุธสงคราม ข้ามฝั่งจากเมียนมา ปักคาหลังคาบ้าน โชคดีไม่ระเบิด
“หากความพ่ายแพ้ในที่นี่ มันหมายถึงว่า ทหารพม่ายอมเจรจากับฝ่ายต่อต้านหรือนักรบกลุ่มชาติพันธุ์หลาย ๆ พื้นที่ที่ตนเองพ่ายแพ้หรือยอมจำนน และยอมให้กลุ่มที่ชนะยึดครองพื้นที่ไปก่อน หนทางนี้มีความเป็นไปได้สูง ซึ่งกำลังเกิดขึ้นแล้วในบางพื้นที่ และคงเกิดขึ้นต่อเนื่องเพราะทหารพม่าในหลายพื้นที่เริ่มยอมรับความพ่ายแพ้และยอมวางอาวุธ โดยทางทหารพม่าคงยอมให้อีกฝ่ายดูแลพื้นที่ไปเลย และถอนกำลังออกมากระจุกกันอยู่ที่ใจกลางของประเทศซึ่งเป็นฐานที่มั่นสำคัญแทน
รัฐบาลทหารเมียนมาใกล้ถึงจุดจบหรือไม่ หลังเสียเมียวดี เมืองชายแดนติดไทย
พบเมืองสแกมเมอร์ทุนจีน-กะเหรี่ยงเทาแห่งใหม่ ติดชายแดน อ.พบพระ จ.ตาก
การตายจากมะเร็งปอดที่ “ไม่ยุติธรรม” ของคณบดี ม.เชียงใหม่ ผ่านการต่อสู้ของครอบครัว
ยุทธการในสงครามโลกครั้งที่สองเกี่ยวข้องกับญี่ปุ่น
อาจารย์จาก ม.เกษตรศาสตร์กล่าวต่อว่า ในวันเดียวกันกับที่กองทัพเมียนมาเสียเมืองเมียวดี ก็พบว่าพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย เดินสายทำบุญที่วัดนากะ สงครรามพม่า นะเกาง์ เจาง์ในเมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน ซึ่งมีพระเกจิชื่อดังจำวัดอยู่และเป็นที่รู้กันว่าพระรูปนี้คือหมอดูประจำตัวของผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา
ชาวเมียนมาจำนวนมากเล็งลงหลักปักฐานในไทย หวังเลี่ยงความขัดแย้งในบ้านเกิด
เสียงระเบิด-ปืน สภาพที่ รร.ชายแดนไทย-เมียนมาต้องเผชิญ